หลายคนคงจะเคยได้ยินกันมาก่อน แต่อาจจะไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วความหมายที่แท้จริงของคำว่า “DeepFake” คืออะไร โดยส่วนใหญ่การใช้งานมักจะถูกนำเอามาตัดต่อใบหน้าของดาราเพื่อนำไปใส่ในวิดีโออนาจาร หรือเป็นการปลอมแปลงเสียงให้เหมือนกันใครคนใดคนหนึ่ง โดยที่เหมือนกับว่าเทคโนโลยีชนิดนี้ จะไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อทำประโยชน์แต่อย่างใด แต่ถ้าเราลองค้นหาคำว่า DeepFake ในสื่อต่าง ๆ
โดยส่วนใหญ่แล้วจะปรากฎให้ได้เห็นก็คือ การนำเอาโปรแกรมชนิดนี้ไปดัดแปลงโดยมีการนำรูปดาราไปใส่ในหนังโรงที่ตัวดาราคนนั้นไม่ได้แสดง ตลอดจนวิดีโอที่มีการปลอมแปลงตัวบุคคลสำคัญทั้งหน้าตา และเสียงพูด โดยที่อาจจะเป็นการสื่อสารข้อมูลที่ไม่ใช่ความจริง โดยสามารถเกิดความเสียหายร้ายแรงได้โดยไม่รู้ตัว
DeepFake คืออะไร
สำหรับความหมายที่แท้จริงของคำว่า DeepFake เกิดขึ้นมาจากคำ 2 คำที่นำเอามารวมกัน นั่นก็คือคำว่า Deep Learning กับคำว่า Fake โดยคำว่า Deep Learning เป็นคำที่ถูกคิดค้นขึ้นมาใหม่เพื่อเป็นการเรียกชุดความสามารถที่เป็นการเรียนรู้หนึ่งในรูปแบบของระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่สามารถเรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ ที่มาจากสิ่งเล็ก ๆ ที่สามารถเข้าใจได้ง่ายไม่ซับซ้อน ไปจนถึงเรื่องที่ซับซ้อนหรือยากที่จะเข้าใจ ส่วนคำว่า Fake แปลว่าปลอมนั่นเอง
โดยที่ตัวเทคโนโลยี DeepFake โปรแกรมเฉพาะทางที่ได้ถูกคิดค้นขึ้นมาจากฝีมือมนุษย์ โดยถือกำเนิดขึ้นมาครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2017 จากฝีมือของสมาชิกท่านหนึ่งที่ใช้นามแฝงว่า DeepFake โดยอยู่ในโปรแกรมที่มีผู้ใช้งานอิสระอย่าง Reddit โดยเป็นการเริ่มใช้ภาพใบหน้าของดาราดังระดับโลกหลายคนเข้ามาแทนที่ใบหน้าของดาราหนังโป๊ และรวมไปถึงการนำเอาหน้าดาราหลาย ๆ ท่านไปดัดแปลงใส่ในหนังเรื่องต่าง ๆ ที่เจ้าตัวไม่ได้แสดงนั่นเอง
และนอกเหนือจากสิ่งที่ได้บอกไป ก็มีความสามารถอีกหนึ่งอย่าง ที่อาจจะเป็นประโยชน์เพียงอย่างเดียวของโปรแกรมชนิดนี้ เพราะเทคโนโลยีนี้จะเป็นการใช้ประโยชน์เป็นอย่างมากในการตรวจจับใบหน้าคนของ AI เข้ามา โดยจะทำการสลับรูปทรงของใบหน้าที่เลือกเอาไว้มาทดแทนใบหน้าที่ต้องการ โดยที่ในเริ่มแรกของการใช้งานโปรแกรมดังกล่าว มักจะมีข้อจำกัดมากมาย เช่น วิดีโอที่ได้ออกมาจะมีคุณภาพต่ำ และมีท่าทางของการแสดงออกที่ไม่เป็นธรรมชาติ แต่ด้วยการพัฒนาต่อยอดความสามารถไปอย่างไม่สิ้นสุด จึงทำให้ทุกวันนี้โปรแกรม DeepFake ที่ได้รับการพัฒนา และตรวจสอบถึงปัญหาและสาเหตุในข้อจำกัดของการใช้งาน จึงทำให้ข้อจำกัดต่าง ๆ ที่เป็นตัวแปลที่สำคัญที่ของวิดีโอที่ออกมาให้ชมกันในทุกวันนี้โดยใช้เทคโนโลยี DeepFake แทบจะแยกด้วยตาเปล่าไม่ได้เลย
สำหรับเทคโนโลยี DeepFake ที่ได้นำมาแนะนำ เพื่อเป็นการศึกษาเบื้องต้นนั้น ไม่ว่าจะเป็นต้นกำเนิด โดยการใช้เทคโนโลยีทุกชนิดก็เป็นเหมือนดาบ 2 คม เช่นเดียวกันกับเทคโนโลยี DeepFake ที่ให้ได้ทั้งความบันเทิง และภัยอันตรายในตัว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลและจุดประสงค์ที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ และเทคโนโลยีนี้ยังบอกกับเราอีกว่า เราควรระวังตัวเกี่ยวกับการเลือกอ่านข่าวจากสื่อต่าง ๆ ให้มากขึ้น