“ไส้เดือน” เป็นสัตว์ผู้ย่อยซากอินทรีย์ในระบบนิเวศน์ ซึ่งคุณสมบัตินี้เองที่ทำให้หลายคนตอนนี้หันมาเลี้ยงไส้เดือน แบบทั้งขายตัวไส้เดือนและขายมูลไส้เดือน การเลี้ยงไส้เดือนไม่ใช่เรื่องยากเราเองก็สามาถเลี้ยงไส้เดือนได้เองที่บ้าน
การเลี้ยงไส้เดือน
ไส้เดือนดินที่อาศัยอยู่ตามผิวดินหรือใต้ซากอินทรีย์ ไส้เดือนดินที่อยู่ตามผิวดินหรือใต้ซากอินทรีย์จะมีประสิทธิภาพในการย่อยสารอินทรีย์ในดินได้ดี
วิธีการเลี้ยงไส้เดือนดินอย่างง่ายในกะละมัง
1.เตรียมกะละมัง นำมา 1-2 มิล. ให้ทั่วกะละมัง เพื่อเอาไว้ระบายน้ำไหลออกสะดวก
2.เตรียมดินสำหรับไส้เดือน หาได้จากของใช้ในควรเรือน ผสมกับดิน หากต้องการใส่มูลวัวจะต้องทำการหมักเพื่อล้างแก๊สและความร้อนอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
3.คลุกให้เข้ากัน แล้วนำไปใส่ในกะละมังประมาณครึ่งกะละมัง แล้วใส่ไส้เดือนดินลงไปบนดิน โดยไม่ต้องฝัง เดี๋ยวไส้เดือนดินจะไชลงไปเอง (เนื่องจากไส้เดือนยังไม่ชินกับดินใหม่ พยายามจะหนี ให้ใช้น้ำยาล้างจานทาบริเวณปากกะละมังหรือให้เปิดไหส่องทั้งคืน ไส้เดือนก็จะมุดลงไปในดินเอง)
4.นำไปไว้ในโรงเรือน ที่ร่ม ไม่ให้โดนแสงแดดโดยตรง แล้วคอยรดน้ำให้ความชื้นประมาณ 1 ครั้ง/3-4 วัน
5.รอประมาณ 1-2 เดือน ก็จะได้ปุ๋ยไส้เดือนที่พร้อมใช้งาน
6.วิธีเก็บมูลไส้เดือน ให้แยกไส้เดือนออกมา อาจจะใช้กระชอนร่อนเพื่อให้ได้ดินมูลไส้เดือนที่ไม่ปนกับเศษอาหารที่ยังย่อยไม่หมด แล้วก็นำไส้เดือนเหล่านี้ไปเลี้ยงใหม่ ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
สิ่งที่ได้จาการเลี้ยงไส้เดือน
1.มูลไส้เดือน มีลักษณะสีน้ำตาลดำ เป็นเม็ดร่วน มีความพรุน โปร่งนุ่มเบา ระบายน้ำและอากาศได้ดี ไม่มีกลิ่นฉุน ให้ธาตุอาหารหลายชนิดที่อยู่ในเศษอินทรียวัตถุเหล่านั้นถูกเปลี่ยนให้อยู่ในรูปที่พืชสามารถนำไปใช้ได้ เช่น เปลี่ยนไนโตรเจน ให้อยู่ในรูป ไนเตรท หรือ แอมโมเนีย ฟอสฟอรัสในรูปที่เป็นประโยชน์ โพแทสเซียมในรูปที่แลกเปลี่ยนได้ มีธาตุอาหารรอง เช่น แมงกานีส เหล็ก ทองแดง และสารอาหารอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการเจริญของพืช รวมทั้งมีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม
2.น้ำหมักมูลไส้เดือน (Worm Tea) คือน้ำที่ได้จากการย่อยสลายของเศษอินทรีย์ที่ใช้เป็นอาหารไส้เดือน มีสีน้ำตาลดำ ไม่มีกลิ่น มีสารอาหารหลายชนิด
3.ไส้เดือน หลังจากได้ปุ๋ยไส้เดือนแล้ว หากจะขายไส้เดือนเพื่อเป็นเหยื่อตกปลาก็ยังได้
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การเลี้ยงไส้เดือนเป็นที่นิยมกันมาก มีทั้งแบบอาชีพหลักและอาชีพเสริม หรือเลี้ยงไว้เพื่อย่อยเศษอาหารแต่ก็ได้ใช้ปุ๋ยในเวลาเดียวกัน หากใครอยากหาอาชีพเสริม หรืองานอดิเรกลองนำวิธีข้างต้นไปเลี้ยงกันอยู่
