เงินเดือนออกแล้ว ทำยังไงให้ไม่หมดก่อนสิ้นเดือน

13

แม้เงินเดือนจะออกตรงเวลา แต่ความรู้สึก “เงินไม่พอใช้” กลับมาบ่อยเกินไป ยิ่งเมื่อค่าครองชีพพุ่งขึ้นในทุกเดือน การบริหารเงินเดือนจึงไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลขในบัญชีอีกต่อไป แต่เป็นทักษะที่ใครก็ต้องเรียนรู้ เพราะการจัดการเงินที่ดี ไม่ได้ทำให้แค่กระเป๋าเงินหนา แต่ทำให้ใจเราเบาลง และใช้ชีวิตได้อย่างอิสระโดยไม่ถูกผูกติดกับความเครียดด้านการเงิน

เทคนิคจัดการเงินเดือนแบบไม่เครียด
เทคนิคจัดการเงินเดือนแบบไม่เครียด

การจัดการเงินเดือนให้คล่องตัว ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากการเปลี่ยนชีวิตครั้งใหญ่ แค่เข้าใจจังหวะของรายรับรายจ่าย ตั้งระบบเงินอย่างมีกลยุทธ์ และเลือกใช้วิธีที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ก็สามารถเปลี่ยนจากภาวะเดือนชนเดือน มาเป็นเดือนที่เหลือเงินเก็บได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงเครียดเรื่องเงินเดือน

หลายคนอาจไม่ได้มีรายได้น้อย แต่กลับรู้สึกว่าเงินไม่เคยพอ ซึ่งปัญหานี้ไม่ได้มาจากตัวเงินเพียงอย่างเดียว แต่อาจเกิดจากพฤติกรรมการใช้จ่ายที่ไม่ได้มีโครงสร้าง และไม่รู้ว่าควรให้ความสำคัญกับอะไรเป็นลำดับแรก ความเครียดจึงไม่ได้เกิดจากการไม่มีเงิน แต่อยู่ที่การไม่มี “แผน” ในการใช้มัน

เมื่อไม่มีแผน รายจ่ายก็จะกลายเป็นตัวควบคุมชีวิต อารมณ์ และสุขภาพจิตในระยะยาว

เริ่มต้นด้วยการรู้จักตัวเองทางการเงิน

การรู้ว่าตัวเองมีรายรับเท่าไหร่ ใช้จ่ายกับอะไรบ้าง และอะไรคือสิ่งจำเป็น เป็นจุดตั้งต้นที่สำคัญของการวางแผนการเงิน เพราะไม่ว่าคุณจะได้เงินเดือน 15,000 หรือ 150,000 หากไม่รู้จักตัวเลขของตัวเอง ก็ยากจะควบคุมทิศทางของชีวิตการเงินได้

แนวทางที่ควรเริ่มทำทันที:

  • สรุปรายรับรายจ่ายของตัวเองย้อนหลัง 3 เดือน
  • จัดหมวดหมู่รายจ่าย (ค่าเช่า, อาหาร, เดินทาง, ความบันเทิง)
  • แยกแยะว่าอะไรคือสิ่งจำเป็น และอะไรเป็นความอยาก
  • ระบุพฤติกรรมการใช้เงินที่ส่งผลเสียต่อสภาพคล่อง

เทคนิคแบ่งเงินเดือนให้ใช้ได้ทั้งเดือน

การแบ่งเงินแบบมีระบบคือหัวใจของการจัดการเงินแบบไม่เครียด หากวางโครงสร้างไว้ดี จะสามารถใช้เงินได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องกลัวว่าจะหมดกลางเดือน

สูตร 6-3-1 ที่สามารถประยุกต์ใช้ได้ง่าย:

  • 60% สำหรับรายจ่ายจำเป็น เช่น ค่าเช่าบ้าน, ค่าน้ำค่าไฟ, ค่าเดินทาง, ค่าอาหาร
  • 30% สำหรับเป้าหมายในอนาคต เช่น เงินออม, เงินลงทุน, เงินฉุกเฉิน
  • 10% สำหรับความสุขส่วนตัว เช่น ดูหนัง, เดินทาง, ช้อปปิ้ง

ไม่จำเป็นต้องเป๊ะในทุกเดือน แต่การมีกรอบนี้ จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น และลดการตัดสินใจแบบฉุกละหุก

จัดเงินแบบ “บัญชีแยก” เพื่อความชัดเจน

การมีบัญชีเดียวสำหรับทุกอย่าง มักนำไปสู่การใช้จ่ายเกินตัว เพราะเราไม่เห็นภาพรวมว่ากำลังใช้เงินส่วนไหนไปอยู่

แนวทางที่แนะนำ:

  • เปิดบัญชีออมเงิน, บัญชีใช้จ่ายประจำ, และบัญชีฉุกเฉิน
  • โอนเงินทันทีหลังเงินเดือนเข้า แยกตามสัดส่วนที่วางไว้
  • ใช้บัตรเดบิตต่างกันในแต่ละบัญชี เพื่อแยกพฤติกรรมการใช้

การมองเห็นเงินแต่ละกองอย่างชัดเจน จะทำให้รู้ตัวทันทีว่าใช้งบไหนอยู่ และช่วยควบคุมการใช้จ่ายได้ดีขึ้น

วางแผนใช้จ่ายรายเดือนแบบมีลำดับ

การจัดลำดับความสำคัญก่อนใช้จ่าย เป็นการปรับ Mindset จาก “อยากได้อะไรก็ซื้อ” มาเป็น “อะไรจำเป็นต้องจ่ายก่อน” ซึ่งช่วยลดแรงกดดันเรื่องการเงินได้อย่างมาก

การจัดลำดับจ่ายเงินเดือนที่แนะนำ:

  1. ค่าใช้จ่ายคงที่ (เช่า, หนี้, ประกัน)
  2. เงินออม/เงินลงทุน
  3. ค่าของใช้จำเป็น
  4. ความบันเทิงหรือความสุขส่วนตัว

เมื่อทำสิ่งสำคัญให้เสร็จก่อน ความเครียดเรื่องเงินจะน้อยลง เพราะรู้ว่าพื้นฐานชีวิตถูกดูแลแล้ว

หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เงินหายโดยไม่รู้ตัว

หลายครั้งเงินไม่ได้หายไปกับรายจ่ายใหญ่ แต่หายไปกับ “สิ่งเล็กๆ แต่บ่อย” เช่น ค่าอาหารเดลิเวอรี, กาแฟทุกเช้า, หรือการกดเงินโดยไม่เช็กยอด

สิ่งเล็กที่ควรระวัง:

  • จ่ายแบบไม่วางแผนล่วงหน้า
  • กดเงินบ่อยเกินไปจนเสียค่าธรรมเนียม
  • ซื้อของตามอารมณ์หรือโปรโมชั่น
  • ขาดการตรวจสอบยอดใช้จ่ายประจำสัปดาห์

เพียงแค่รู้เท่าทันพฤติกรรมเล็กๆ เหล่านี้ ก็สามารถคืนเงินหลายพันบาทในแต่ละเดือนได้

เทคนิคเล็กๆ ที่ช่วยให้ไม่เครียดเมื่อเงินเดือนเข้า

นอกจากการวางแผนหลัก การเติมเทคนิคเล็กๆ เข้าไปในชีวิตประจำวัน ก็ช่วยเสริมความสบายใจด้านการเงินได้มากขึ้น

เทคนิคที่ใช้ได้จริง:

  • ตั้งเตือนอัตโนมัติวันโอนเงินออม
  • ใช้แอปพลิเคชันช่วยจดบันทึกรายจ่าย
  • ตั้งเป้าหมายเงินเก็บรายเดือนแบบไม่กดดัน
  • ให้รางวัลตัวเองเล็กๆ เมื่อทำตามแผนการเงินได้
  • หลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบกับคนอื่นเรื่องการใช้เงิน

สรุป: จัดการเงินเดือนให้ดี ชีวิตจะเบากว่าที่คิด

การใช้ชีวิตโดยไม่เครียดเรื่องเงินไม่ได้หมายถึงการห้ามใช้จ่าย แต่คือการ “รู้ว่าควรใช้กับอะไร ใช้เมื่อไหร่ และใช้แค่ไหน” การมีระบบในการจัดการเงินเดือนคือกุญแจสำคัญที่จะพาคุณไปสู่ชีวิตที่มั่นคง และทำให้คุณไม่ต้องรู้สึกผิดทุกครั้งที่ใช้เงินในสิ่งที่รัก

เริ่มจากจุดเล็กๆ อย่างการจดรายจ่าย หรือการแบ่งบัญชี แล้วค่อยๆ ขยับไปสู่การลงทุนและการเก็บเงินที่ชาญฉลาด แม้คุณจะยังไม่ได้มีรายได้มหาศาล แต่แค่มีวินัยทางการเงิน คุณก็สามารถมีชีวิตที่คล่องตัว ปราศจากความเครียด และใช้เงินได้อย่างมีความสุขในทุกเดือน